ประโยชน์ของการให้ลูกน้อยกินนมแม่

เด็กที่กินนมแม่จะได้รับสารอาหารที่เหมาะสมมากกว่า แม้ว่ายังไม่มีการวิจัยเกี่ยวกับการให้ลูกน้อยกินนมแม่เกินกว่า 2 ปีมากนัก แต่ผลการศึกษาพบว่าหากคุณแม่ยังคงให้ลูกน้อยกินนมแม่อย่างต่อเนื่อง ลูกน้อยจะได้รับสารอาหารและภูมิคุ้มกันโรคที่เหมาะสมและมีประสิทธิภาพ พบว่าหลังจากปีแรกไปแล้ว (ช่วงเดือนที่ 12 – 23 ) ในปริมาณน้ำนมแม่ 448 มล. จะประกอบไปด้วยสารอาหารดังนี้

• 29% ของพลังงานที่ลูกน้อยต้องการ
• 43% ของโปรตีนที่ลูกน้อยต้องการ
• 36% ของแคลเซียมที่ลูกน้อยต้องการ
• 75% ของวิตามิน A ที่ลูกน้อยต้องการ
• 76% ของโฟเลทที่ลูกน้อยต้องการ
• 94% ของวิตามิน B12 ที่ลูกน้อยต้องการ
• 60% ของวิตามิน C ที่ลูกน้อยต้องการ
 

เด็กที่กินนมแม่จะเจ็บป่วยน้อยกว่า
 

• ผลการวิจัยจาก American Academy of Family Physicians (AAFP,ปี 2001) พบว่าเด็กที่หย่านมก่อน 2 ปีจะมีโอกาสเจ็บป่วยได้มากกว่า
• การให้ลูกน้อยวัย 16 – 30 เดือน กินนมแม่ต่อไปจะช่วยให้มีโอกาสเจ็บป่วยน้อยกว่า และยังช่วยให้หายเจ็บป่วยได้เร็วกว่าอีกด้วย
• ภูมิคุ้มกันโรคบางอย่างในน้ำนมแม่จะสร้างขึ้นช่วงปีที่ 2 ดังนั้นการให้นมลูกหลังจาก 1 ปีไปแล้วจะช่วยให้ลูกมีภูมิคุ้มกันมากขึ้น เด็กที่กินนมแม่จะมีโอกาสเป็นภูมิแพ้น้อยกว่า

ผลการศึกษาได้พิสูจน์แล้วว่าการให้ลูกน้อยกินนมแม่เป็นเวลาอย่างน้อย 6 เดือนขึ้นไปสามารถช่วยลดโอกาส การเป็นภูมิแพ้ต่าง ๆ ได้เป็นอย่างดี เนื่องจากนมแม่ช่วยในเรื่องต่าง ๆ ดังนี้

• ลดโอกาสในการสัมผัสกับสารก่อภูมิแพ้ต่าง ๆ
• ช่วยในการพัฒนาของลำไส้ เมื่อลำไส้แข็งแรงโอกาสแพ้ก็ลดน้อยลง
• ช่วยเคลือบผนังลำไส้ ช่วยป้องกันโมเลกุลของสารที่ก่อให้เกิดภูมิแพ้ต่าง ๆ
• ช่วยสร้างภูมิคุ้มกันการอักเสบ ช่วยป้องกันไม่ให้ติดเชื้อซึ่งเป็นสิ่งที่อาจกระตุ้นให้เกิดการแพ้ได้
 

เด็กที่กินนมแม่ฉลาดกว่า
 

การศึกษาพบวว่าผลสัมฤทธิ์ด้านการเรียนรู้ (ระดับไอคิว, เกรด) และการให้ลูกน้อยกินนมแม่อย่างต่อเนื่องนั้น มีความสัมพันธ์กัน โดยเด็กที่กินนมแม่อย่างต่อเนื่องจะมีไอคิวที่สูงและเรียนได้คะแนนดีกว่า เด็กที่กินนมแม่จะสามารถปรับตัวเข้ากับสังคมได้ดีกว่า

การให้นมแม่ในระยะยาวนั้นเป็นการให้ความรักและความอบอุ่นกับลูกน้อย ซึ่งนอกจากจะช่วยเพิ่มพลังและกำลังใจให้กับลูกน้อยแล้ว ยังช่วยลดความหงุดหงิดและความเครียดในแต่ละวัน ช่วยให้ลูกน้อยมีอารมณ์ที่มั่นคงมากขึ้น ส่งผลให้ลูกน้อยสามารถรับมือกับการเปลี่ยนแปลงต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในวัยเด็กอย่างค่อยเป็นค่อยไปรู้จักการปรับตัวเข้าสังคม รวมทั้งรู้จักการอยู่คนเดียวเมื่อจำเป็นได้อีกด้วย