“วิตามิน” เป็นสารประกอบอินทรีย์ที่มีความจำเป็นต่อร่างกาย เพราะร่างกายของคนเราไม่สามารถสังเคราะห์วิตามินเองได้ จึงต้องได้รับวิตามินจากแหล่งอาหารธรรมชาติและผักใบเขียว ซึ่งเป็นแหล่งที่อุดมด้วยวิตามินและแร่ธาตุต่างๆ ที่จำเป็นต่อร่างกาย
วิตามินแบ่งเป็น 2 ประเภท ได้แก่ วิตามินที่ละลายในไขมัน (วิตามินเอ ดี อี เค) และวิตามินที่ละลายในน้ำ เช่น วิตามินบีและวิตามินซี การเสริมวิตามินรวมและวิตามินบีให้เพียงพอจะช่วยให้คุณมั่นใจได้ว่า ลูกน้อยจะมีสุขภาพที่ดีและมีพัฒนาการที่สมบูรณ์ในช่วงต้นของวัยทารก เพราะหากทารกขาดวิตามินเหล่านี้จะส่งผลเสียต่อสุขภาพและพัฒนาการของเขาได้
เมื่อไหร่ควรเสริมวิตามินให้ลูก?
มีวิตามินหลายชนิดที่พบได้น้อยในอาหารตามธรรมชาติ ดังนั้นสำหรับทารกที่อายุน้อยกว่า 6 เดือน ควรเลี้ยงด้วยนมแม่เพียงอย่างเดียวเพื่อให้ทารกได้รับวิตามินที่หลากหลายจากนมแม่ นอกจากนี้คุณแม่ควรเพิ่มคุณภาพของน้ำนมแม่ ด้วยการเลือกกินอาหารที่มีประโยชน์และมีความหลากหลาย โดยเฉพาะเมื่อลูกน้อยอายุ 6 เดือนขึ้นไปและเริ่มต้องการอาหารเสริมที่เหมาะสมกับวัยแล้ว คุณแม่ควรให้นมแม่ควบคู่กับอาหารเสริม พร้อมกับอาหาร 4 กลุ่มหลัก ได้แก่ แป้ง โปรตีน ผัก และไขมัน เพราะขึ้นชื่อว่าเป็นแหล่งของวิตามินที่ดีและมีประโยชน์ต่อการเจริญเติบโตของลูกน้อย
หากคุณแม่ไม่สามารถเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ต่อไป ควรปรึกษาแพทย์เพื่อขอคำแนะนำในการใช้นมผงดัดแปลงสำหรับทารก เพื่อให้มั่นใจว่า ลูกน้อยจะได้รับโภชนาการที่เพียงพอในแต่ละวันที่เหมาะสมกับช่วงพัฒนาการของเขา นอกจากนี้ควรให้ลูกอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ดี หลีกเลี่ยงมลภาวะ และควรสนับสนุนให้ลูกได้สนุกกับกิจกรรมเล่นกลางแจ้ง เพื่อให้ร่างกายสามารถสังเคราะห์วิตามินดีจากแสงแดด และควรพาลูกไปฉีดวัคซีนตามกำหนดทุกครั้ง เพื่อให้ลูกมีระบบภูมิคุ้มกันที่แข็งแรง
สำคัญที่สุดไม่ควรให้ลูกกินวิตามินเสริมโดยไม่จำเป็น เพราะการได้รับวิตามินที่มากเกินไปย่อมอันตรายต่อสุขภาพของลูกน้อย โดยเฉพาะวิตามินที่ละลายในไขมันเพราะสามารถสะสมในร่างกายได้ ก่อนตัดสินใจให้วิตามินเสริมแก่ลูกน้อยคุณแม่จึงควรปรึกษาคุณหมอผู้เชี่ยวชาญเรื่องโภชนาการเด็กและทารกทุกครั้ง รวมถึงวัดน้ำหนักและส่วนสูงที่เพิ่มขึ้นในแต่ละเดือนของลูก เพื่อประเมินพัฒนาการและอาจขอคำแนะนำจากคุณหมอเพิ่มเติมว่า ร่างกายของลูกน้อยขาดวิตามินหรือไม่? แล้วจึงให้วิตามินเสริมที่เหมาะสมต่อลูกน้อยต่อไป