MyFeed Personalized Content
รวมเคล็ดลับ ดูแลครรภ์ สำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์มือใหม่
บทความ

PLAYING: แม่ตั้งครรภ์ 15 สัปดาห์ เพื่อพัฒนาการทารก อายุครรภ์ 15 สัปดาห์

Add this post to favorites

แม่ตั้งครรภ์ 15 สัปดาห์ เพื่อพัฒนาการทารก อายุครรภ์ 15 สัปดาห์

เมื่อคุณแม่ตั้งครรภ์เข้าสู่ไตรมาสที่สองได้ประมาณ 15 สัปดาห์ ทารกน้อยในครรภ์จะเริ่มมีรูปร่างเหมือนเด็กมากขึ้น ในขณะเดียวกันอาการแพ้ท้องของคุณแม่จะเริ่มดีขึ้นเช่นกัน คุณแม่ตั้งครรภ์มีการเปลี่ยนแปลงของร่างกายอยู่ตลอดเวลา ในช่วงของการตั้งครรภ์ 15 สัปดาห์ คนท้องมีการเปลี่ยนแปลงอย่างไร และลูกน้อยในท้องจะมีพัฒนาการแบบไหนบ้าง ไปติดตามพัฒนาการตั้งครรภ์ 15 สัปดาห์กันได้เลย

2นาที อ่าน

สรุป

  • คุณแม่ตั้งครรภ์ 15 สัปดาห์ อาจมีอาการเลือดออกตามไรฟัน เหงือกบวม อายใจไม่อิ่ม เลือดกำเดาไหล และอาหารไม่ย่อยได้ ซึ่งเป็นอาการที่อาจพบได้ ทั้งนี้หากไม่มั่นใจในความผิดปกติ คุณแม่ควรปรึกษาแพทย์์
  • ในช่วงนี้ลูกน้อยในท้องเริ่มโตขึ้นมาอีกนิดแล้ว และมีหน้าตาที่คล้ายกับทารกมากขึ้น แถมยังเริ่มมีการเคลื่อนไหวเล็กน้อยซึ่งคุณแม่อาจจะยังไม่รู้สึกถึงการเคลื่อนไหวอย่างแผ่วเบาของลูกน้อย
  • ในระหว่างของการตั้งครรภ์ 15 สัปดาห์ เป็นช่วงที่คุณแม่ต้องระมัดระวังเรื่องการทานอาหาร โดยเน้นการทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ และหลากหลาย พยายามงดอาหารหมักดอง เครื่องดื่มที่ผสมแอลกอฮอล์ หลีกเลี่ยงอาหารรสจัด เพื่อสุขภาพที่ดีของคุณแม่และลูกน้อยในท้อง

ตั้งครรภ์ 15 สัปดาห์ มีอะไรเกิดขึ้นบ้าง

ผิวหนังของลูกน้อยบางมากทำให้สามารถมองทะลุเห็นเส้นเลือดผ่านผิวหนังได้อย่างชัดเจน ในสัปดาห์นี้ลูกน้อยยังคงฝึกหายใจ ดูด และกลืนอย่างต่อเนื่อง ส่วนกระดูกส่วนต่าง ๆ จะแข็งแรงขึ้น และตอนนี้ลูกมีใบหน้าคล้ายทารกแล้ว เพราะดวงตา ใบหู อยู่ในตำแหน่งที่ถูกต้อง

ตั้งครรภ์ 15 สัปดาห์ เท่ากับกี่เดือน

หากคุณแม่ตั้งครรภ์ได้ 15 สัปดาห์ เท่ากับว่าตอนนี้คุณแม่กำลังตั้งครรภ์ได้ 4 เดือนแล้วและกำลังเข้าสู่การตั้งครรภ์ไตรมาสที่ 2

ตั้งครรภ์ 15 สัปดาห์ ลูกอยู่ตรงไหน

ตอนนี้ลูกน้อยในท้องจะอยู่บริเวณส่วนบนของมดลูกประมาณ 10 -22 เซนติเมตร ใต้สะดือของคุณแม่

พัฒนาการลูกน้อยในครรภ์ 15 สัปดาห์ เป็นอย่างไร

พัฒนาการลูกน้อยในครรภ์ 15 สัปดาห์ เป็นอย่างไร

ตั้งครรภ์ 15 สัปดาห์ ทารกมีขนาดตัวเท่าใด

ลูกน้อยในท้องตัวใหญ่ขึ้น โดยมีขนาดลำตัวยาวประมาณ 10.2 ซม. ซึ่งเทียบเท่ากับขนาดลูกแพร์ ส่วนน้ำหนักจะอยู่ที่ประมาณ 71 กรัม

ตั้งครรภ์ 15 สัปดาห์ ลูกดิ้น แล้วหรือยัง

สัปดาห์นี้คุณแม่คุณแม่อาจยังไม่รู้สึกถึงการเคลื่อนไหวของเจ้าตัวเล็ก แต่ลูกน้อยในท้องเริ่มมีการเคลื่อนไหวร่างกายบ้างแล้ว เช่น งอนิ้วเท้า เตะ ดูดนิ้ว และขยับแขนขา

อวัยวะและระบบต่างๆ

ช่วงนี้หูของทารกกำลังพัฒนาอย่างต่อเนื่องจนเริ่มได้ยินเสียงของคุณแม่เป็นครั้งแรก ส่วนดวงตายังคงปิดสนิทแต่เริ่มตอบสนองต่อแสงได้บ้างแล้ว

การเปลี่ยนแปลงร่างกายของคุณแม่ ตั้งครรภ์ 15 สัปดาห์

ในช่วงนี้ระบบไหลเวียนเลือดของคุณแม่จะดีขึ้น อาจมีเลือดกำเดาไหล และปวดหัวอยู่บ่อยครั้งได้ เมื่อแปรงฟันอาจพบอาการเลือดออกตามไรฟันได้ง่ายเนื่องจากแคลเซียมและเกลือแร่ของคุณแม่ถูกลูกน้อยนำไปเสริมสร้างกระดูกนั่นเอง ส่วนบริเวณร่างกายคุณแม่จะรู้สึกถึงการเปลี่ยนแปลงของหัวนม ผิวหนังรอบหัวนมจะมีสีที่เข้มขึ้น มีน้ำหนักที่เพิ่มมากขึ้น โดยเฉลี่ยจะอยู่ที่ประมาณ 2 กิโลกรัม บางครั้งอาจรู้สึกชาที่ปลายมือและเท้า อีกทั้งยังมีความรู้สึกปวดกล้ามเนื้อหรือเส้นเอ็นบริเวณท้องส่วนล่างเนื่องจากการขยายตัวของมดลูกด้วย ทั้งนี้หากคุณแม่รู้สึกผิดปกติ แนะนำให้ไปพบแพทย์เพื่อรับการวินิจฉัยอย่างถูกต้อง

อาการคุณแม่ตั้งครรภ์ 15 สัปดาห์ เป็นแบบไหน

  • อารมณ์ทางเพศสูงขึ้น คุณแม่ท้องบางคนอาจรู้สึกถึงอารมณ์ทางเพศ เนื่องจากเลือดที่คั่งบริเวณอวัยวะเพศมากขึ้น รวมถึงความรู้สึกในการยอมรับการตั้งครรภ์ของคุณแม่นั่นเอง
  • เลือดกำเดาไหล การเปลี่ยนแปลงฮอร์โมนในร่างกายอาจทำให้คนท้องเลือดกำเดาไหลได้ง่ายซึ่งเป็นอาการที่อาจพบได้ของคุณแม่ตั้งครรภ์ในสัปดาห์นี้
  • แสบกลางอกและ/หรืออาหารไม่ย่อย หากคุณแม่ตั้งครรภ์มีอาการอาหารไม่ย่อยแนะนำให้คุณแม่แบ่งทานอาหารเป็นมื้อเล็ก ๆ หลาย ๆ มื้อ แทนที่จะทานเป็นอาหารมื้อหลัก 3 มื้อ เพื่อไม่ให้ระบบย่อยอาหารทำงานหนักเกินไป
  • เหงือกบวม ในช่วงนี้คุณแม่อาจรู้สึกถึงอาการเหงือกบวมและเลือดออกตามไรฟันได้ง่ายหลังจากแปรงฟัน เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนทำให้คุณแม่เลือดออกตามไรฟันได้ง่าย และอาจเป็นโรคเหงือกอักเสบด้วยได้ซึ่งอาการเหงือกบวมสามารถไปเองหลังจากที่คุณแม่คลอดลูก
  • หายใจไม่อิ่ม เนื่องจากช่วงนี้ขนาดหน้าท้องของคุณแม่เริ่มใหญ่ขึ้นทำให้ไปเบียดกับปอดและกระบังลมจนปอดมีพื้นที่ในการขยายตัวลดลง คุณแม่จึงรู้สึกหายใจไม่อิ่มและอาจรู้สึกอ่อนเพลียหรือหน้ามืดได้ง่ายเพราะคุณแม่ได้รับออกซิเจนน้อยลง

อาหารคนท้อง ตั้งครรภ์ 15 สัปดาห์ ควรกินอะไรบ้าง

อาหารคนท้อง 15 สัปดาห์ ควรกินอะไรบ้าง

เพื่อป้องกันอาการที่อาจเกิดขึ้นในช่วงสัปดาห์ที่ 15 ของการตั้งครรภ์ และการเสริมสร้างพัฒนาการของร่างกายและอวัยวะของลูกน้อย คุณแม่ท้องควรทานอาหารสำหรับคนท้อง ดังนี้

  • ทานอาหารที่มีธาตุเหล็กสูง เช่น ผักใบเขียว รวมถึงตับ และไข่แดง เพื่อให้ร่างกายสร้างเม็ดเลือดให้มากพอที่จะลำเลียงออกซิเจนและสารอาหารจากแม่ไปสู่ลูกน้อย
  • เลือกทานผักและผลไม้ที่มีกากใยสูง เพื่อลดอาการท้องผูกที่เกิดขึ้นในช่วงตั้งครรภ์สัปดาห์ที่ 15 หรือเมนูอาหารสำหรับคนท้องที่เหมาะสม
  • ดื่มนมเป็นประจำเพื่อเพิ่มปริมาณแคลเซียมสำหรับการเสริมสร้างกระดูกและฟันของทารกน้อยในครรภ์

การอัลตราซาวด์เมื่อตั้งครรภ์ได้ 15 สัปดาห์

ในกรณีที่คุณแม่ไม่ได้ตรวจครรภ์ตั้งแต่ไตรมาสแรก การตรวจอัลตราซาวด์ในช่วงนี้ของคุณแม่จะเป็นการตรวจเพื่อยืนยันอายุครรภ์ ตรวจหาตำแหน่งของรก และปริมาณน้ำคร่ำ ตรวจความสมบูรณ์ของอวัยวะต่าง ๆ ในร่างกายทารก เช่น หัวใจ สมอง ตับ ไต กระดูกสันหลัง เป็นต้น ประเมินความเสี่ยงการคลอดก่อนกำหนดสำหรับคุณแม่ที่เคยมีประวัติคลอดก่อนกำหนดมาก่อน และตรวจดูการไหลเวียนโลหิตของเส้นเลือดที่มาเลี้ยงมดลูกซึ่งเชื่อมต่อมายังทารก

ข้อแนะนำสำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์ 15 สัปดาห์

1. อาหารและกิจกรรมที่คุณแม่ท้อง 15 สัปดาห์ ควรหลีกเลี่ยง

  • คุณแม่ควรทานอาหารจำพวกแป้ง น้ำตาล และไขมันในปริมาณที่เหมาะสม เพราะร่างกายของคนท้องต้องการสารอาหารอื่นมากกว่าโดยเฉพาะโปรตีน
  • คุณแม่ควรระมัดระวังในการทานยา เพราะในช่วงนี้ร่างกายและระบบประสาทของทารกยังคงพัฒนาอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากยาบางชนิดอาจส่งผลต่อพัฒนาการของลูกน้อยในท้อง เสี่ยงต่อความพิการ และทำให้ลูกเติบโตช้าได้
  • ไม่ควรทานอาหารรสจัด อาหารกึ่งสุกกึ่งดิบ อาหารหมักดอง เพราะอาหารเหล่านี้จะทำให้คุณแม่รู้สึกไม่สบายท้อง หรือปวดท้องได้ และอาจส่งผลเสียแก่สุขภาพของทารกในครรภ์
  • งดการสูบบุหรี่และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ การสูบบุหรี่ส่งผลโดยตรงต่อทารกน้อยในครรภ์เป็นอย่างมาก เพราะอาจทำให้ทารกโตช้า เสี่ยงต่อความพิการและความผิดปกติของร่างกายลูกน้อย และยังทำให้คุณแม่เสี่ยงต่อการคลอดก่อนกำหนดด้วย

2. อาการแพ้ท้องยังไม่หมดไป ทำอย่างไรดี

หากคุณแม่ยังมีอาการแพ้ท้อง อยู่ แนะนำให้ลองทานอาหารแต่ละมื้อน้อยลงแต่ทานให้บ่อยขึ้น เพื่อให้กระเพาะอาหารสามารถย่อยอาหารได้ทัน พยายามเปลี่ยนเมนูอาหารที่อาจทำให้รู้สึกดีขึ้น เช่น เปลี่ยนจากข้าวมาเป็นทานขนมปังแทน หรือรอให้อาหารเย็นลงเพราะการทานอาหารร้อน ๆ จะทำให้คุณแม่ไม่้กลิ่นอาหารที่ชัดเจนจนรู้สึกอยากอาเจียนได้ ทั้งนี้หากมีอาการแพ้ท้องที่ผิดปกติ คุณแม่สามารถไปพบแพทย์เพื่อรับคำปรึกษาต่อไป

อ้างอิง:

  1. คำแนะนำสำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์ไตรมาส 1-3, โรงพยาบาลบางปะกอก
  2. เซ็กซ์ ยามตั้งครรภ์, โรงพยาบาลยันฮี
  3. อาการหน้ามืด อ่อนเพลียในคุณแม่ตั้งครรภ์, โรงพยาบาลกรุงเทพ
  4. อัลตร้าซาวด์ และการตรวจความผิดปกติของทารกในครรภ์, โรงพยาบาลสมิติเวช
  5. ประโยชน์ในการทำอัลตร้าซาวด์แต่ละช่วงอายุครรภ์, โรงพยาบาลรามคำแหง
  6. 3 เทคนิคลดอาการแพ้ท้อง, โรงพยาบาลเปาโล
  7. 10 ข้อห้ามที่ “คนท้อง” ต้องรู้, โรงพยาบาลสมิติเวช
  8. 15 Weeks Pregnant, whattoexpect
  9. Pregnancy at week 15, pregnancybirthbaby
  10. 15 Weeks Pregnant, americanpregnancy
  11. การเปลี่ยนแปลงทางร่างกายและจิตใจระหว่างตั้งครรภ์ ไตรมาสที่ 2, Mbrace
  12. โรคปากแหว่ง เพดานโหว่, โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์สภากาชาดไทย

 

อ้างอิง ณ วันที่ 26 พฤศจิกายน 2566