10 ประโยคที่คุณพ่อไม่ควรพูดกับคุณแม่ตั้งครรภ์
เพื่อไม่ให้คุณแม่ตั้งท้องหงุดหงิด คุณสามีควรหลีกเลี่ยงคำพูดหยอกล้อหรือคำถามง่ายๆ ที่อาจทำให้คุณภรรยาเหวี่ยงใส่ได้เลยทีเดียว โดยมี 10 คำพูดต้องห้ามที่สามีไม่ควรพูดให้ภรรยาตั้งท้องได้ยิน ดังนี้
1.อยากกินอีกแล้วหรือ?
เป็นเรื่องปกติของคนท้องที่มักจะอยากกินโน่นกินนี่บ่อยๆ แม้ยามดึกก็อาจจะรู้สึกหิวขึ้นมาได้เหมือนกัน ซึ่งก็เป็นหน้าที่ของสามีที่จะต้องจัดหามาให้ภรรยาทาน ดังนั้นอย่าได้เผลอพูดคำว่า “อยากกินอีกแล้วหรือ” “ค่อยกินวันหลังได้หรือเปล่า” ออกมาเด็ดขาด เพราะนั่นจะทำให้ภรรยาของคุณหงุดหงิดขึ้นมาทันที ทั้งยังอาจจะรู้สึกน้อยใจที่คุณไม่ยอมทำตามอีกด้วย เอาเป็นว่าช่วงนี้ก็ตามใจภรรยาหน่อยแล้วกัน จะได้ไม่เกิดปัญหาทะเลาะเบาะแว้งกันขึ้นมานั่นเอง
2.ดูอ้วนขึ้นนะ?
เรื่องน้ำหนักหรือความอ้วน เป็นสิ่งที่ไม่ควรพูดกับภรรยาที่กำลังตั้งครรภ์เด็ดขาด เพราะพวกเธอจะรู้สึกนอยด์กับเรื่องนี้เป็นอย่างมาก เพราะฉะนั้นหากคุณสามีเริ่มรู้สึกว่าภรรยาอ้วนเกินไปและเป็นห่วงสุขภาพของภรรยา แนะนำว่าควรชวนเธอลดน้ำหนักแบบอ้อมๆ ด้วยการพาเธอไปทานอาหารที่มีประโยชน์ ชวนกันออกกำลังกายเบาๆ ที่เหมาะกับคนท้อง ซึ่งวิธีเหล่านี้จะทำให้ภรรยาของคุณสัมผัสได้ถึงความใส่ใจที่คุณมีให้ จึงให้ความรู้สึกที่ดีกว่าการพูดตรงๆ ว่าเธออ้วนขึ้นมากทีเดียว
3.จะร้องไห้ทำไมนักหนา?
ต้องทำความเข้าใจสักนิด ว่าคนท้องมีอารมณ์ที่อ่อนไหวง่ายมาก ดังนั้นจึงเป็นเรื่องปกติที่คุณสามีมักจะเห็นภรรยาร้องไห้บ่อยๆ ซึ่งบางครั้ง คำพูดเพียงเล็กน้อยของคุณ ก็อาจทำให้เธอร้องไห้ออกมาได้แล้ว และแน่นอนว่าการที่คุณพูดว่า “จะร้องไห้ทำไมนักหนา” จะยิ่งไปตอกย้ำให้ความรู้สึกของคนท้องแย่ลงกว่าเดิม และยิ่งน้อยใจมากขึ้นไปอีก ทางที่ดีคุณควรใช้วิธีการปลอบโยนด้วยการสวมกอดภรรยาไว้จะดีกว่า
4.คุณจะรู้สึกเหนื่อยอะไรมากมาย?
เป็นคำพูดบั่นทอนจิตใจของคนท้อง ที่สามีไม่ควรพูดให้ภรรยาได้ยินเด็ดขาด ซึ่งก็จริงอยู่ที่สามีส่วนใหญ่มักจะไม่เข้าใจว่าคนท้องจะเหนื่อยอะไรนักหนา ทั้งที่บางทีก็นอนอยู่แต่บ้านและทำงานบ้านเล็กน้อยเท่านั้น ดังนั้นจึงต้องอธิบายก่อนเลยว่า คนท้องมักจะมีฮอร์โมนชนิดหนึ่งหลั่งออกมามากกว่าปกติ เป็นผลให้เกิดความรู้สึกเหนื่อยง่ายและอยากนอนตลอดเวลา เพราะฉะนั้นถ้าไม่อยากให้ภรรยาเหวี่ยงวีน หรือเกิดอาการน้อยใจ ก็อย่าได้เผลอพูดคำนี้ออกมาเลยเชียว
5.จะให้อยู่ในห้องคลอดด้วยไหม?
คุณสามีควรรู้ได้ด้วยตนเองว่า ภรรยาต้องการให้คุณคอยเป็นกำลังใจและอยู่ในห้องคลอดด้วยอย่างแน่นอน เพราะฉะนั้นไม่ควรถามคำถามนี้ออกไปเด็ดขาด เพราะจะทำให้ภรรยารู้สึกหงุดหงิดและเหวี่ยงขึ้นมาทันที เนื่องจากคิดว่าเรื่องแค่นี้คุณก็ไม่รู้หรอ หรืออาจคิดไปในทางน้อยใจว่า ที่พูดมานี่คือไม่อยากเข้าไปอยู่ในห้องคลอดด้วยกันใช่ไหม อย่าลืมว่าคนท้องอารมณ์แปรปรวนง่าย เพราะฉะนั้นก็ต้องระมัดระวังการใช้คำพูดสักนิด
6.อย่างี่เง่าได้ไหม
บางทีคุณอาจจะรู้สึกว่าภรรยาของคุณงี่เง่ามากเกินไป แต่ควรหยุดคิดสักนิด ว่านั่นเป็นผลจากการที่เธอกำลังตั้งครรภ์ จึงทำให้เธอดูงี่เง่าและเอาแต่ใจตัวเองมากไปหน่อย ดังนั้นคำนี้จึงเป็นอีกหนึ่งคำพูดที่ไม่ควรพูดให้ภรรยาได้ยินเด็ดขาด ไม่อย่างนั้นจะทำให้เธอเกิดอารมณ์เสียและน้อยใจขึ้นมาในทันที
7.ผู้หญิงคนนั้นสวยจัง
คุณอาจจะเผลอพูดออกไปตามประสาผู้ชายที่ชอบมองผู้หญิงสวยเป็นธรรมดา แต่อย่าลืมว่าภรรยาของคุณกำลังอยู่ในช่วงที่อ่อนไหวง่าย ซึ่งเวลาปกติคำพูดแบบนี้ก็สามารถทำให้ผู้หญิงไม่พอใจได้แล้ว ยิ่งคุณมาพูดให้ได้ยินในขณะที่เธอกำลังท้องด้วย ขอบอกเลยว่างานเข้าแน่นอน
8.เรื่องมากจริงๆ
คุณสามีควรท่องเอาไว้เลยว่าในขณะที่ภรรยาท้อง จะต้องตามใจและเอาอกเอาใจภรรยามากเป็นพิเศษ เพราะคนท้องอารมณ์เสียง่าย ดังนั้นไม่ว่าเธอจะเรื่องมากและเอาแต่ใจมากแค่ไหน ก็อย่าได้เผลอไปพูดกับเธอว่า “เรื่องมากจริงๆ” เด็ดขาด ถึงแม้จะพูดออกไปแบบเล่นๆ ก็เป็นเรื่องได้เหมือนกัน
9.แฟนเก่าเราดีกว่านี้อีก
เปรียบเทียบแบบนี้ไม่ดีนะขอบอกเลย เพราะคงไม่มีใครอยากได้ยินประโยคที่ว่า แฟนเก่าของคุณดีกว่าหรอก โดยเฉพาะผู้หญิงที่กำลังตั้งครรภ์ด้วยแล้ว จะทำให้เธอรู้สึกน้อยใจไปไกลเลยทีเดียว เอาเป็นว่าลองคิดว่าคุณเป็นฝ่ายได้ยินประโยคแบบนี้บ้างสิ แล้วจะรู้ว่ามันทำให้รู้สึกแย่มากแค่ไหน
10.เป็นง่อยเหรอ
ภรรยาของคุณอาจจะใช้ให้คุณทำโน่นทำนี่ให้ จนนึกสนุกหยอกล้อเธอด้วยคำว่า “เป็นง่อยเหรอ” เท่านั้นแหละรับรองเลยว่าเธอจะวีนขึ้นมาทันที ก็เพราะภรรยาท้องขี้หงุดหงิดนั่นเอง แม้คุณจะพูดแค่เล่นๆ แต่ก็ถึงกับเป็นเรื่องเป็นราว เกิดการทะเลาะกันได้เลยทีเดียว
เพราะคนท้องอารมณ์เสียง่าย ขี้หงุดหงิดและน้อยใจมากเป็นพิเศษ ดังนั้นถ้าไม่อยากให้ภรรยาของคุณเหวี่ยงวีนขึ้นมาบ่อยๆ ก็ควรระวังอย่าใช้คำพูด 10 คำนี้เด็ดขาด และที่สำคัญควรไตร่ตรองให้ดีก่อนจะพูดอะไรออกไปทุกครั้งด้วย นั่นก็เพราะคำพูดเพียงเล็กน้อยที่ไม่ได้คิดอะไร อาจทำให้เป็นเรื่องเป็นราวขึ้นมาได้เลยทีเดียว