แม่ตั้งครรภ์ 6 สัปดาห์ เพื่อพัฒนาการทารก อายุครรภ์ 6 สัปดาห์
สรุป
- อายุครรภ์ 6 สัปดาห์ ร่างกายของแม่จะเปลี่ยนแปลง เต้านมจะใหญ่ขึ้น อาจรู้สึกเจ็บเมื่อกดหรือจับเต้านม
- คุณแม่อาจมีอาการแพ้ท้องมากขึ้น ควรระมัดระวังไม่ให้ร่างกายขาดน้ำ อาจเป็นอันตรายต่อแม่และลูกในท้องได้
- อาการเหนื่อยล้าและอ่อนเพลียที่เกิดขึ้น มาจากฮอร์โมนโปรเจสเตอโรนที่เพิ่มขึ้น อาจทำให้คุณแม่รู้สึกไม่สบายตัวได้
ตั้งครรภ์ 6 สัปดาห์ มีอะไรเกิดขึ้นบ้าง
คุณแม่บางคนอาจจะทราบว่า ตัวเองตั้งครรภ์เมื่ออายุครรภ์ 6 สัปดาห์ เนื่องจากร่างกายจะเปลี่ยนแปลง เริ่มมีอาการแพ้ท้องเกิดขึ้น อารมณ์ไม่คงที่ เกิดอาการเวียนหัวได้ง่าย เต้านมของคุณแม่ก็เริ่มโตขึ้น อาจมองเห็นเส้นเลือดขยายตัว ฐานนมและหัวนมจะมีสีคล้ำขึ้น เป็นสัญญาณบ่งบอกว่า ร่างกายของคุณแม่กำลังเตรียมพร้อมต่อการตั้งครรภ์ สำหรับคุณแม่ที่มีอาการแพ้ท้องมาก จนทำให้รับประทานอาหารได้น้อย ควรเลือกอาหารอ่อน ๆ กลิ่นไม่แรง จะช่วยให้ร่างกายย่อยได้ง่าย หมั่นจิบน้ำบ่อย ๆ ให้ร่างกายคุณแม่สดชื่น
ตั้งครรภ์ 6 สัปดาห์ เท่ากับกี่เดือน
การตั้งครรภ์ 6 สัปดาห์ จะก้าวเข้าสู่เดือนที่ 2 ของการตั้งครรภ์ อย่างไรก็ตาม โดยมากแล้วแพทย์จะนิยมนับอายุครรภ์เป็นสัปดาห์มากกว่าการนับเป็นเดือนเพราะสะดวกและแม่นยำมากกว่า
ตั้งครรภ์ 6 สัปดาห์ ลูกอยู่ตรงไหน
ตั้งครรภ์ 6 สัปดาห์ เจ้าตัวน้อยเติบโตอยู่ภายในมดลูก แต่ขนาดของลูกจะเล็กมาก
พัฒนาการลูกน้อยในครรภ์ 6 สัปดาห์ เป็นอย่างไร
1. ตั้งครรภ์ 6 สัปดาห์ ทารกมีขนาดตัวเท่าใด
อายุครรภ์ 6 สัปดาห์ ตัวอ่อนจะมีขนาดประมาณ 0.5 เซนติเมตร สามารถมองเห็นการเต้นของหัวใจจากการอัลตราซาวนด์ เริ่มมีร่องยาวไล่ลงไปถึงหลัง ซึ่งจะพัฒนาไปเป็นสมองและระบบประสาทต่อไป
2. ตั้งครรภ์ 6 สัปดาห์ ลูกดิ้น แล้วหรือยัง
ตั้งครรภ์ 6 สัปดาห์ คุณแม่จะยังไม่สามารถสัมผัสได้ว่าลูกดิ้น อดใจรอให้ถึงประมาณสัปดาห์ที่ 16 เป็นต้นไป จึงจะค่อย ๆ รู้สึกถึงความเปลี่ยนแปลงภายในท้องของคุณแม่
3. อวัยวะและระบบต่าง ๆ
ในสัปดาห์ที่ 6 หัวใจของเจ้าตัวน้อยได้พัฒนาอย่างสมบูรณ์ทั้ง 4 ห้อง อวัยวะอย่างแขนและขาจะพัฒนามากขึ้น มีนิ้วมือและนิ้วเท้าแล้ว ส่วนหู ตา และจมูก ก็มีพัฒนาการอย่างต่อเนื่อง
การเปลี่ยนแปลงร่างกายของคุณแม่ อายุครรภ์ 6 สัปดาห์
อาการแพ้ท้องของคุณแม่จะชัดเจนขึ้น ทำให้เกิดอาการวิงเวียนศีรษะ คลื่นไส้อาเจียน มีอารมณ์แปรปรวน หรือพบอาการนอนไม่หลับได้
อาการคุณแม่ตั้งครรภ์ 6 สัปดาห์ เป็นแบบไหน
- อาการเหนื่อยล้า อาการอ่อนเพลียเหนื่อยล้า เป็นอาการที่พบได้บ่อยระหว่างตั้งครรภ์ เนื่องจากฮอร์โมนโปรเจสเตอโรนที่เพิ่มมากขึ้น และในร่างกายของคุณแม่ก็ต้องเตรียมพร้อมสำหรับการดูแลทารกในครรภ์
- อาการเจ็บคัดเต้านม เต้านมของคุณแม่จะเปลี่ยนแปลงไป ขนาดค่อย ๆ ใหญ่ขึ้น มีอาการเจ็บคัดเต้านมและเกิดอาการชาได้
- ปัสสาวะบ่อยครั้ง เนื่องจากมดลูกมีขนาดใหญ่ขึ้น ทำให้ไปกดกระเพาะปัสสาวะ จึงทำให้คุณแม่รู้สึกอยากปัสสาวะบ่อย ๆ
- ท้องอืดมีแก๊สในกระเพาะอาหาร ด้วยฮอร์โมนโปรเจสเตอโรนที่สูงขึ้น ส่งผลต่อร่างกายของคุณแม่ ทำให้รู้สึกท้องอืดและมีแก๊สในกระเพาะอาหาร นอกจากนี้ มดลูกที่ขยายตัวใหญ่ขึ้น ก็ยังส่งผลต่อกระเพาะอาหาร รวมถึงลำไส้ คุณแม่จึงรู้สึกท้องอืดได้ง่าย
- อารมณ์แปรปรวน ฮอร์โมนคนท้องที่เพิ่มมากขึ้น ส่งผลต่ออารมณ์และจิตใจของคนท้อง ทำให้รู้สึกอารมณ์แปรปรวนได้ คนที่ดูแลใกล้ชิด จึงต้องใส่ใจความรู้สึกของคุณแม่มากเป็นพิเศษ
- เป็นตะคริวและมีเลือดออกกะปริบกะปรอย หากมีเลือดออกกะปริบกะปรอยในช่วงอายุครรภ์ 6 สัปดาห์ เป็นอาการปกติที่พบได้ในคนท้อง เช่นเดียวกับการเกิดตะคริว
อาหารคนท้อง 6 สัปดาห์ ควรกินอะไรบ้าง
อาหารคนท้อง 6 สัปดาห์ควรได้รับโภชนาการให้ครบ 5 หมู่ โดยเฉพาะโปรตีน เพราะเป็นช่วงที่ทารกในครรภ์กำลังสร้างอวัยวะ โปรตีนและเกลือแร่ จึงมีความสำคัญอย่างมาก รวมถึงผักและผลไม้ที่มีกากใยจะช่วยให้ขับถ่ายได้ดี ป้องกันอาการท้องผูกได้ สำหรับคุณแม่ที่มีอาการแพ้ท้อง ควรเลือกเครื่องดื่มรสเปรี้ยวที่จะช่วยบรรเทาอาการแพ้ท้อง เช่น น้ำมะนาวหรือน้ำส้ม
การอัลตราซาวด์เมื่อตั้งครรภ์ได้ 6 สัปดาห์
หากอัลตราซาวด์ในอายุครรภ์ 6 สัปดาห์ จะเห็นการเต้นของหัวใจลูกได้
ข้อแนะนำสำหรับคุณแม่อายุครรภ์ 6 สัปดาห์
อาหารและกิจกรรมที่คุณแม่ท้อง 6 สัปดาห์ ควรหลีกเลี่ยง
อาหารที่คุณแม่อายุครรภ์ 6 สัปดาห์ไม่ควรรับประทาน คือ
- อาหารรสจัด
- อาหารทอด เพราะเป็นอาหารที่ย่อยได้ยาก
- อาหารหมักดอง
- อาหารกึ่งสุกกึ่งดิบ
- เครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์
- เครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน
สำหรับกิจกรรมที่คุณแม่ท้อง 6 สัปดาห์ควรหลีกเลี่ยง ได้แก่ การออกกำลังกายหรือเล่นกีฬาอย่างหักโหม และการยกของหนัก เพราะเป็นช่วงไตรมาสแรกที่ต้องดูแลร่างกายให้ดี เพื่อป้องกันการแท้งบุตร ส่วนการมีเพศสัมพันธ์ในไตรมาสแรก ควรปรึกษาแพทย์
การตรวจคัดกรองเบาหวานขณะตั้งครรภ์
การตรวจคัดกรองเบาหวาน โดยทั่วไปจะทำการตรวจคัดกรองช่วงอายุครรภ์ 24-28 สัปดาห์ หรือแพทย์จะประเมินความเสี่ยง และอาจพิจารณาตรวจคัดกรองก่อน หากพบว่ามีความเสี่ยง
อ้างอิง:
- การเปลี่ยนแปลงทางสรีรวิทยาในสตรีตั้งครรภ์, ภาควิชาสูติศาสตร์และนรีเวชวิทยา คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
- สุขใจ ได้เป็นแม่, UNFPA
- 5 อาการที่พบบ่อยในคนท้อง, สื่อมัลติมีเดียกรมอนามัย
- กรมอนามัย แนะหญิงท้องหลีกเลี่ยงอาหารรสจัด หมักดอง เน้นกินปลา ตับ ไข่ ผัก ผลไม้ นม, สื่อมัลติมีเดียกรมอนามัย
- ไตรมาสที่ 1 ของการตั้งครรภ์ ( อายุครรภ์ < 14 สัปดาห์ ), ศูนย์สุขภาพสตรี โรงพยาบาลบีเอ็นเอช
- เบาหวานกับการตั้งครรภ์, โรงพยาบาลกรุงเทพ
อ้างอิง ณ วันที่ 3 ธันวาคม 2566