แม่ตั้งครรภ์ 13 สัปดาห์ เพื่อพัฒนาการทารก อายุครรภ์ 13 สัปดาห์
สรุป
- อายุครรภ์ 13 สัปดาห์ ถือเป็นช่วงสุดท้ายของการตั้งครรภ์ไตรมาสแรก อาการแพ้ท้องเริ่มหมดไป คุณแม่จะรู้สึกดีขึ้นจากอาการแพ้ท้อง กระฉับกระเฉง มีพลังทำกิจกรรมต่าง ๆ ได้ดีมากขึ้น
- ทารกในครรภ์เริ่มขยับร่างกายไปมาได้มากขึ้น เริ่มมีขนและผมงอก อวัยวะต่าง ๆ ครบ สามารถได้ยินเสียงหัวใจผ่านการอัลตราซาวด์ และอวัยวะเพศเริ่มชัดเจนว่าเป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย
- การตรวจคัดกรองความผิดปกติของทารก อาทิ กลุ่มอาการดาวน์ สามารถทำได้ในอายุครรภ์นี้ ด้วยวิธีอัลตราซาวด์ควบคู่กับการตรวจเลือด ซึ่งเรียกว่าNon-Invasive Prenatal Testing: NIPT
ตั้งครรภ์ 13 สัปดาห์ มีอะไรเกิดขึ้นบ้าง
อายุครรภ์ 13 สัปดาห์ถือว่าเป็นระยะเวลาสิ้นสุดไตรมาสแรกและก้าวสู่ไตรมาสสองของการตั้งครรภ์ อาการแพ้ท้องเริ่มดีขึ้น คุณแม่สามารถรับประทานอาหารได้มากยิ่งขึ้น ซึ่งคุณแม่ควรทานอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย เช่น ธาตุเหล็ก เพื่อสร้างเม็ดเลือดแดง โดยธาตุเหล็กเป็นส่วนประกอบสำคัญของการสร้างฮีโมโกลบิน เพื่อนำส่งออกซิเจนไปยังส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย
ตั้งครรภ์ 13 สัปดาห์ เท่ากับกี่เดือน
เมื่อนับอายุครรภ์จากวันแรกของประจำเดือนครั้งสุดท้าย โดยมีอายุครรภ์ 13 สัปดาห์ หรือเท่ากับอายุครรภ์ 3 เดือน ซึ่งเป็นสัปดาห์สุดท้ายของการตั้งครรภ์ไตรมาสแรกนั้นเอง
ตั้งครรภ์ 13 สัปดาห์ ลูกอยู่ตรงไหน
ช่วงอายุครรภ์ 13 สัปดาห์นี้ คนรอบข้างจะสามารถรับรู้ว่าตั้งครรภ์มากขึ้นอย่างชัดเจน เพราะการเปลี่ยนแปลงทางสรีระของคุณแม่ เนื่องจากมดลูกขยายใหญนมากขึ้น ทีนี้เมื่อเวลาใช้บริการขนส่งสาธารณะคุณแม่ก็สามารถใช้สิทธิ์คนท้องได้อย่างสบายใจเลยนะคะ
พัฒนาการลูกน้อยในครรภ์ 13 สัปดาห์ เป็นอย่างไร
ตั้งครรภ์ 13 สัปดาห์ ทารกมีขนาดตัวเท่าใด
เมื่อทารกอายุครรภ์ 13 สัปดาห์ จะมีขนาดความยาวจากหัวถึงก้นประมาณ 7 – 12 เซนติเมตร
ตั้งครรภ์ 13 สัปดาห์ ลูกดิ้นแล้วหรือยัง
ทารกในครรภ์จะเริ่มขยับตัวไปมามากขึ้น แต่คุณแม่อาจจะยังไม่สามารถรับรู้ถึงการดิ้นของทารกได้เท่าไหร่นัก เนื่องจากยังมีขนาดที่เล็กพอสมควร
อวัยวะและระบบต่าง ๆ
อวัยวะต่าง ๆ ครบ และทารกเริ่มมีสัดส่วนที่สมส่วนมากขึ้น คุณหมอจะสามารถฟังเสียงหัวใจผ่านการอัลตราซาวด์ได้ชัดเจนขึ้น ระบบไตทำงานเกือบสมบูรณ และมีการพัฒนาของจำนวนเส้นประสาทและกล้ามเนื้อจะเพิ่มขึ้นถึง 3 เท่า
การเปลี่ยนแปลงร่างกายของคุณแม่ อายุครรภ์ 13 สัปดาห์
เมื่ออาการแพ้ท้องหายไปในช่วงอายุครรภ์ 13 สัปดาห์นี้ และครรภ์เริ่มมีขนาดใหญ่ขึ้นจนเห็นได้ชัด คุณแม่ควรเริ่มมีการควบคุมและเลือกเมนูอาหารสำหรับคนท้อง ที่จะรับประทานมากขึ้น เพราะอาจส่งผลต่อน้ำหนักตัวของคุณแม่ที่เพิ่มอย่างรวดเร็ว ซึ่งไม่ส่งผลดีต่อการตั้งครรภ์ ควรควบคุมน้ำหนักให้ขึ้นอย่างเหมาะสมและเป็นไปตามเกณฑ์ที่คุณหมอแนะนำ
อาการคุณแม่ตั้งครรภ์ 13 สัปดาห์ เป็นแบบไหน
- ขนาดมดลูกที่โตขึ้นจะไปกดทับเส้นเลือดดำที่ผ่านจากอุ้งเชิงกรานมาสู่ช่องท้องทำให้เลือดไหลเวียนได้ไม่ดีเลือดที่ถูกส่งไปยังหัวใจไหลเวียนได้ยากทำให้เลือดคั่งค้างอยู่ในเส้นเลือดฝอยบริเวณขาเมื่อสะสมมากๆเข้าก็จะกลายเป็นเส้นเลือดขอดมีกำลังมากขึ้น เมื่ออาการแพ้ท้องหมดไป คุณแม่อาจจะรู้สึกสดชื่น กระฉับกระเฉงมากขึ้น ซึ่งถือเป็นสัญญาณที่ดีที่จะเริ่มออกกำลังกายแบบเบา ๆ นอกจากทำให้ร่างกายแข็งแรงแล้ว ยังส่งผลต่อการคลอดลูกที่ง่ายขึ้นด้วยค่ะ
- อารมณ์ทางเพศเริ่มกลับมา เนื่องจากช่วงที่คุณแม่แพ้ท้อง ร่างกายมีความอ่อนเพลีย ไม่สบายตัว รวมถึงการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน จึงทำให้ความต้องการทางเพศลดลง แต่เมื่อายุครรภ์ 13 สัปดาห์ อารมณ์ทางเพศอาจกลับมาสู่ภาวะปกติได้ ซึ่งคุณแม่ก็สามารถมีเซ็กส์ในช่วงนี้ได้ตามเหมาะสมจนถึงระยะใกล้คลอด หากไม่มีอาการท้องที่ผิดปกติใด ๆ
อาหารคนท้อง 13 สัปดาห์ ควรกินอะไรบ้าง
คุณแม่ตั้งครรภ์ 13 สัปดาห์ควรรับประทานอาหารที่มีธาตุเหล็กเพื่อช่วยในการสร้างฮีโมโกลบิน ซึ่งทำหน้าที่ส่งออกซิเจนไปตามส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย รวมไปถึงเน้นโปรตีน แคลเซียม และโฟเลต เพื่อช่วยเสริมสร้างเนื้อเยื่อและการเจริญเติบโตของทารกในครรภ์
การอัลตราซาวด์เมื่อตั้งครรภ์ได้ 13 สัปดาห์
ทารกในครรภ์เริ่มมีอวัยวะต่าง ๆ ชัดเจนมากขึ้น ร่างกายสมส่วนมากขึ้น โดยเฉพาะอวัยวะเพศที่เริ่มชัดเจนว่าทารกในครรภ์เป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย แต่จากขนาดของทารกที่ยังเล็กมากจึงอาจจะยังเห็นไม่ชัดด้วยวิธีอัลตร้าซาวน์ทั้งนี้หากคุณแม่เลือกวิธีตรวจคัดกรองกลุ่มอาการดาวน์ด้วยวิธีการตรวจเลือด ซึ่งเรียกว่า Non-Invasive Prenatal Testing: NIPT ที่ตรวจได้ตั้งแต่อายุครรภ์ 11-13 สัปดาห์ ก็จะสามารถทราบเพศของลูกได้ด้วยเช่นกัน
ข้อแนะนำสำหรับคุณแม่อายุครรภ์ 13 สัปดาห์
1. อาหารและกิจกรรมที่คุณแม่ท้อง 13 สัปดาห์ ควรหลีกเลี่ยง
คุณแม่ควรงดอาหารดิบหรือปรุงไม่สุก รวมถึงอาหารกึ่งสำเร็จรูป อาหารกระป๋อง และอาหารที่มีส่วนผสมของผงชูรส ทั้งนี้ควรงดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และลดการดื่มชา กาแฟด้วย นอกจากนี้ควรระมัดระวังเกี่ยวกับรับสารเคมีเข้าสู่ร่างกาย อาทิ การย้อมสีผม หรือการรับประทานวิตามินต่าง ๆ ควรปรึกษาแพทย์ก่อนรับประทาน และไม่ควรหามาทานเอง
2. อาการแพ้ท้องยังไม่หมดไป ทำอย่างไรดี
อาการแพ้ท้องโดยส่วนมากจะเริ่มหมดไปเมื่อเข้าสู่การตั้งครรภ์ไตรมาสสอง แต่หากอาการยังไม่ดีขึ้น หรือมีอาการรุนแรงจนไม่สามารถดื่มน้ำหรือรับประทานอาหารได้ ควรรีบพบแพทย์เพื่อการรักษาที่เหมาะสมเพื่อให้ทารกในครรภ์มีสุขภาพที่แข็งแรง
เมื่ออายุครรภ์ 13 สัปดาห์ คุณแม่อาจจะเริ่มรู้สึกผ่อนคลายและกระฉับกระเฉงมากขึ้น เนื่องด้วยอาการแพ้ท้องลดลงหรือหมดไป ทำให้คุณแม่สามารถเริ่มรับประทานอาหารต่าง ๆ ได้ดีขึ้น ดังนั้นสารอาหารที่ดีมีประโยชน์ต่อทั้งคุณแม่ตั้งครรภ์และทารกในครรภ์ล้วนเป็นสิ่งสำคัญที่ต้องคำนึงถึง ควบคู่กับการออกกำลังกายเบา ๆ ด้วยค่ะ
อ้างอิง:
1. 9 เดือน มหัศจรรย์พัฒนาการทารกในครรภ์, โรงพยาบาลสมิติเวช
2. 9 เดือน กับพัฒนาการของทารกในครรภ์, โรงพยาบาลเปาโล
3. คุณแม่ตั้งครรภ์กับการมีเซ็กซ์, โรงพยาบาลสมิติเวช
4. การดูแลคุณแม่ตั้งครรภ์และพัฒนาการทารกในครรภ์, โรงพยาบาลแมคคอร์มิค
5. ดาวน์ไม่ดาวน์ รู้ได้ตั้งแต่ 3 เดือนแรก, โรงพยาบาลสมิติเวช
6. 13 weeks pregnant: Your guide to this week of your first trimester, Flo.health
7. กว่าจะมาเป็น BABY, โรงพยาบาลศิครินทร์
อ้างอิง ณ วันที่ 26 พฤศจิกายน 2566