แม่ตั้งครรภ์ 30 สัปดาห์ เพื่อพัฒนาการทารก อายุครรภ์ 30 สัปดาห์
สรุป
- อายุครรภ์ 30 สัปดาห์ คุณแม่เริ่มมีการเปลี่ยนแปลงทางร่างกายมากขึ้น เพื่อตอบรับการเติบโตของทารกน้อยในครรภ์ ที่มีพัฒนาการและการเติบโตอย่างรวดเร็ว
- ทารกอายุ 30 สัปดาห์ เริ่มมีพัฒนาการที่ค่อนข้างสมบูรณ์แล้ว และเริ่มตอบสนองกับสิ่งแวดล้อมภายนอกมากขึ้น ทั้งการมองเห็น และการได้ยิน
ตั้งครรภ์ 30 สัปดาห์ มีอะไรเกิดขึ้นบ้าง
ช่วงสัปดาห์ที่ 30 ของการตั้งครรภ์นี้ คุณแม่เริ่มมีการเปลี่ยนทางร่างกายมากขึ้นเพื่อตอบรับการเติบโตของทารกน้อยในครรภ์ เริ่มรับรู้และรู้สึกได้ถึงการดิ้นของลูกน้อยแล้ว สิ่งสำคัญสำหรับคุณแม่คือ ควรบำรุงตัวเองอย่างต่อเนื่องเพื่อเตรียมสำหรับการเปลี่ยนแปลงทางร่างกาย รวมถึงอาหารบำรุงครรภ์ เพื่อทารกน้อยในครรภ์ด้วย
ตั้งครรภ์ 30 สัปดาห์ เท่ากับกี่เดือน
อายุครรภ์ 30 สัปดาห์ เป็นการเดินทางมาสู่ไตรมาสที่ 3 แล้ว เทียบเท่ากับช่วงเวลาที่คุณแม่อุ้มท้องมาได้ 7 เดือน กับอีก 2 สัปดาห์ อีกเพียงแค่ไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้าคุณแม่และลูกน้อยก็จะได้เจอหน้ากันแล้วนั่นเอง
ตั้งครรภ์ 30 สัปดาห์ ลูกอยู่ตรงไหน
ในสัปดาห์นี้ ทารกอาจเริ่มกลับหัวลงมาอยู่ในท่าศีรษะลง แต่ไม่ใช่ตำแหน่งที่แน่นอนเสมอไป ทารกบางคนอาจยังไม่กลับหัวในสัปดาห์นี้ ซึ่งคุณแม่ไม่ต้องกังวลไปเพราะส่วนใหญ่ทารกจะกลับหัวภายในสัปดาห์ที่ 34-36 นอกจากนี้หากคุณแม่ตั้งครรภ์ลูกแฝด ทารกทั้งสองอาจอยู่ในท่าที่แตกต่างกันก็ได้ เช่น ทารกหนึ่งคนอยู่ในท่าเอาหัวลง อีกคนอยู่ในท่าเอาหัวขึ้น
พัฒนาการลูกน้อยในครรภ์ 30 สัปดาห์ เป็นอย่างไร
ทารกอายุครรภ์ 30 สัปดาห์ มีพัฒนาการค่อนข้างสมบูรณ์แล้ว ระบบการทำงานในร่างกายดีมากขึ้น และยังคงพัฒนาต่อไปเพื่อให้สมบูรณ์ที่สุดในวันลืมตาดูโลก
1. ตั้งครรภ์ 30 สัปดาห์ ทารกขนาดตัวเท่าใด
ในสัปดาห์นี้ ทารกจะเติบโตและสมบูรณ์มากขึ้น โดยมีขนาดความยาวตัวประมาณ 39.9 เซนติเมตร และน้ำหนักตัวประมาณ 1.3-1.5 กิโลกรัม เริ่มมีไขมันสะสมมากขึ้น ทำให้ผิวดูเนียนขึ้น ศีรษะมีขนาดใหญ่กว่าลำตัว เทียบให้เห็นภาพชัด ๆ ก็จะเท่ากับกะหล่ำปลีหรือผักกาดหอมนั่นเอง
2. ตั้งครรภ์ 30 สัปดาห์ ลูกดิ้น แล้วหรือยัง
อายุครรภ์ 30 สัปดาห์ ทารกเริ่มมีพัฒนาการทางกล้ามเนื้อและกระดูกแข็งแรงขึ้น สามารถเคลื่อนไหวได้อิสระ คุณแม่จะเริ่มรับรู้และรู้สึกถึงการดิ้นของทารกได้ชัดเจนขึ้น แต่หากคุณแม่บางคนอาจจะยังไม่รู้สึกถึงการดิ้นของทารก เป็นไปได้ว่าทารกกำลังหลับอยู่ หรือพื้นที่ในมดลูกยังไม่คับแคบพอให้ทารกเคลื่อนไหวได้อย่างเต็มที่ ลักษณะการดิ้นของทารกบางคนอาจรู้สึกถึงการดิ้นแบบเบา ๆ เหมือนแมลงปีกแข็งไต่ บางคนอาจรู้สึกถึงการดิ้นแบบแรง ๆ เหมือนเตะ ถีบ บิดตัว
3. อวัยวะและระบบต่าง ๆ
อวัยวะและระบบการทำงานร่างกายต่าง ๆ ของทารกเริ่มมีพัฒนาการที่สมบูรณ์มากขึ้น เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับลืมตาดูโลกในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า
- ระบบประสาท สมองของทารกยังคงเติบโตอย่างรวดเร็ว มีจำนวนเซลล์ประสาทเพิ่มขึ้นนับแสนล้านเซลล์ ระบบประสาทเริ่มเชื่อมโยงกันมากขึ้น สามารถตอบสนองต่อแสง สี เสียงได้แล้ว เช่น เมื่อคุณแม่เปิดเพลงหรือพูดคุยกับทารก ทารกจะตอบสนองด้วยการดิ้นหรือเตะท้อง
- ระบบกล้ามเนื้อ กล้ามเนื้อของทารกเริ่มแข็งแรงขึ้น ทารกสามารถขยับแขนขาอย่างอิสระมากขึ้น มีการดิ้นถีบบ่อยขึ้น
- ระบบทางเดินหายใจ ถุงลมในปอดของทารกเริ่มเจริญขึ้น ทารกสามารถหายใจได้เองเมื่อคลอดออกมา
- ระบบย่อยอาหาร ลำไส้ของทารกเริ่มทำงาน และเริ่มมีการเคลื่อนไหวของลำไส้
- ระบบขับถ่าย ไตของทารกเริ่มทำงาน เริ่มฝึกปัสสาวะออกมาในน้ำคร่ำ
การเปลี่ยนแปลงร่างกายของคุณแม่ อายุครรภ์ 30 สัปดาห์
ในช่วงสัปดาห์ที่ 30 นี้ ร่างกายของคุณแม่เริ่มมีการเปลี่ยนแปลงมากขึ้น เพื่อให้ทารกน้อยได้เติบโตและมีพัฒนาการที่สมบูรณ์มากขึ้น โดยมีการเปลี่ยนแปลงดังนี้
- น้ำหนักตัวเพิ่มขึ้น โดยเฉลี่ยแล้วคุณแม่จะน้ำหนักเพิ่มขึ้นประมาณ 7-10 กิโลกรัม ในสัปดาห์ที่ 30 ของการตั้งครรภ์ น้ำหนักส่วนใหญ่จะเพิ่มขึ้นจากน้ำหนักของทารก น้ำคร่ำ รก และน้ำหนักของมดลูก
- หน้าท้องขยายใหญ่ขึ้น ทำให้คุณแม่รู้สึกอึดอัดและแน่นท้อง ในช่วงนี้ ควรเลือกใส่เสื้อผ้าที่สบาย ๆ และหลีกเลี่ยงการนั่งหรือยืนนาน ๆ
- มีอาการปวดหลัง ด้วยน้ำหนักที่เพิ่มขึ้นของมดลูกและทารก และทำให้คุณแม่มีอาการปวดหลัง
- นอนไม่หลับ เนื่องจากขนาดหน้าท้องที่ใหญ่ขึ้น ทำให้คุณแม่นอนหลับได้ยาก หรือนอนไม่หลับ คุณแม่อาจปรับเปลี่ยนท่าทางการนอนเป็นท่าตะแคงซ้ายเพื่อช่วยให้เลือดไหลเวียนได้ดีขึ้น
อาการคุณแม่ตั้งครรภ์ 30 สัปดาห์ เป็นแบบไหน
เข้าสู่ช่วงอายุครรภ์ 30 สัปดาห์ ร่างกายจะเริ่มมีการเปลี่ยนแปลงมากขึ้น คุณแม่ลองสังเกตอาการของตัวเองว่ามีการเปลี่ยนแปลงดังนี้หรือไม่
- แสบร้อนกลางอก เกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ เช่น การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนโปรเจสเตอโรนในช่วงตั้งครรภ์ หรือการขยายตัวของมดลูก อาจกดทับกระเพาะอาหาร ทำให้กรดในกระเพาะอาหารไหลย้อนขึ้นมาในหลอดอาหารได้ง่ายขึ้น
- มีปัญหาเรื่องการนอน จากการเปลี่ยนแปลงทางร่างกายและจิตใจของคุณแม่ในช่วงอายุครรภ์ 30 สัปดาห์ มักทำให้เกิดปัญหาเรื่องการนอน ได้แก่ การเปลี่ยนแปลงทางร่างกาย หน้าท้องที่ใหญ่ขึ้น ทำให้คุณแม่รู้สึกอึดอัด หายใจไม่สะดวก และปัสสาวะบ่อย
- มือและเท้าบวม เนื่องจากฮอร์โมนโปรเจสเตอโรนเพิ่มขึ้น ทำให้หลอดเลือดขยายตัว ทำให้ร่างกายกักเก็บน้ำไว้มากกว่าปกติ และอาจมีปัจจัยอื่น ๆ ร่วมด้วย เช่น ยืนหรือเดินนาน ๆ ดื่มน้ำหรือเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลมากเกินไป หรือรับประทานอาหารที่มีโซเดียมมากเกินไป
- หายใจไม่อิ่ม เกิดจากการขยายตัวของมดลูก ทำให้ไปกดทับกระบังลม ปอดจึงขยายตัวได้น้อยลง และจากการเปลี่ยนแปลงฮอร์โมนโปรเจสเตอโรนเพิ่มขึ้น ทำให้หลอดเลือดขยายตัว หัวใจทำงานหนักขึ้น ส่งผลให้คุณแม่มีความต้องการออกซิเจนมากขึ้น
อาหารคุณแม่ตั้งครรภ์ 30 สัปดาห์ ควรกินอะไรบ้าง
- โปรตีน มีความสำคัญต่อการสร้างและซ่อมแซมเซลล์ต่าง ๆ ในร่างกาย ของทั้งคุณแม่และทารกในครรภ์ แหล่งโปรตีนที่ดีมาจากเนื้อสัตว์ ไข่ นม ถั่ว และผลิตภัณฑ์จากถั่ว
- คาร์โบไฮเดรต ควรเลือกทานคาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อนที่เป็นแหล่งพลังงานที่สำคัญสำหรับคุณแม่และทารกในครรภ์ แหล่งคาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อนที่ดี ได้แก่ ข้าวกล้อง ขนมปังโฮลวีต เผือก มัน
- ไขมันดี ไขมันดีจำเป็นต่อการพัฒนาสมองและระบบประสาทของทารกในครรภ์ แหล่งไขมันดี เช่น น้ำมันมะกอก น้ำมันปลา อะโวคาโด
- วิตามินและแร่ธาตุ จำเป็นและสำคัญต่อพัฒนาการของทารกในครรภ์ แหล่งวิตามินและแร่ธาตุที่ดี ได้แก่ ผัก ผลไม้ ธัญพืช
นอกจากนี้ คุณแม่ควรกินอาหารหรือวิตามินที่มีแหล่งของสารอาหารพวกแคลเซียม ธาตุเหล็ก กรดโฟลิก วิตามินต่าง ๆ เพื่อบำรุงให้คุณแม่และทารกมีสุขภาพแข็งแรงสมบูรณ์
การอัลตราซาวด์เมื่อตั้งครรภ์ 30 สัปดาห์
- พัฒนาการของทารกน้อยในครรภ์คุณแม่
- ตำแหน่งของทารกในครรภ์
- น้ำหนักของทารก
- เช็คอัตราการเติบโต และพัฒนาการของอวัยวะภายในของทารก
- ทารกที่มีความเสี่ยงต่อภาวะแทรกซ้อน เช่น ทารกเจริญเติบโตช้าในครรภ์ (IUGR) ทารกที่มีความพิการแต่กำเนิด หรือทารกที่สงสัยว่าเป็นโรคดาวน์ซินโดรม
- ผลการอัลตราซาวด์ 30 สัปดาห์ สามารถช่วยแพทย์ประเมินสุขภาพของทารกในครรภ์และวางแผนการดูแลครรภ์ที่เหมาะสม
ข้อแนะนำสำหรับคุณแม่อายุครรภ์ 30 สัปดาห์
ช่วงอายุครรภ์ 30 สัปดาห์ คุณแม่ควรเลือกทานอาหารคนท้องที่มีประโยชน์ สารอาหารเพียงพอต่อความต้องการ และควรหลีกเลี่ยงกิจกรรมที่เสี่ยงต่อการถูกกระทบกระเทือนเป็นอันตรายต่อคุณแม่และทารกในครรภ์
อาหารและกิจกรรมที่คุณแม่ท้อง 30 สัปดาห์ ควรหลีกเลี่ยง
ช่วงตั้งครรภ์ 30 สัปดาห์อาหารและกิจกรรมที่คุณแม่ควรหลีกเลี่ยง มีดังนี้
อาหาร
- อาหารที่ไม่สะอาดหรืออาหารดิบ
- อาหารที่มีสารอันตราย เช่น ปลาที่มีสารปรอทสูง อาหารหมักดอง อาหารรมควัน อาหารที่มีสารเติมแต่งมากเกินไป
- อาหารที่มีคาเฟอีนสูง เช่น กาแฟ ชา น้ำอัดลม
- อาหารที่มีน้ำตาลสูง เช่น ขนมหวาน ผลไม้รสหวาน
- อาหารที่มีไขมันสูง เช่น อาหารทอด อาหารที่มีไขมันทรานส์
- อาหารที่มีโซเดียมสูง เช่น อาหารกระป๋อง อาหารสำเร็จรูป อาหารที่มีผงชูรส
กิจกรรม
- กิจกรรมที่ใช้แรงมาก เช่น การยกของหนัก การยกน้ำหนัก การวิ่ง การกระโดด
- กิจกรรมที่ต้องยืนนาน ๆ หรือนั่งนาน ๆ
- กิจกรรมที่ต้องใช้แรงเบรกหรือเร่งความเร็วอย่างรวดเร็ว เช่น การขับรถ การขับขี่จักรยานยนต์
- กิจกรรมที่มีความเสี่ยงต่อการบาดเจ็บ เช่น การตกจากที่สูง การว่ายน้ำในทะเลหรือแม่น้ำที่มีกระแสน้ำแรง
อาการแบบไหนเสี่ยงครรภ์เป็นพิษ
ครรภ์เป็นพิษ เป็นภาวะแทรกซ้อนที่ร้ายแรงต่อทั้งคุณแม่และทารกในครรภ์ โดยช่วงตั้งครรภ์ 30 สัปดาห์อาการที่คุณแม่ควรสังเกตเพื่อระวังความเสี่ยงครรภ์เป็นพิษ ได้แก่
- ความดันโลหิตสูง 140/90 มิลลิเมตรปรอทขึ้นไป
- โปรตีนในปัสสาวะมากกว่า 300 มิลลิกรัมต่อวัน
- มองเห็นภาพซ้อนหรือพร่ามัว
- คลื่นไส้ อาเจียน
- หายใจลำบาก
- บวมบริเวณใบหน้าหรือตา
- ปวดท้องน้อย
- ทารกดิ้นน้อยลง
อาการของครรภ์เป็นพิษอาจค่อย ๆ พัฒนาขึ้นหรือเกิดขึ้นอย่างฉับพลัน หากไม่ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที อาจส่งผลให้เกิดภาวะแทรกซ้อนที่รุนแรง เช่น ชัก หมดสติ ไตวาย โรคปอดบวม เลือดออกในสมอง ภาวะตกเลือดหลังคลอด และเสียชีวิต
ปัจจัยเสี่ยงที่อาจทำให้เกิดครรภ์เป็นพิษ
- อายุคุณแม่ 35 ปีขึ้นไป
- ตั้งครรภ์แฝดหรือตั้งครรภ์มากกว่า 1 คน
- มีประวัติครรภ์เป็นพิษมาก่อน
- เป็นโรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง โรคไต โรคไทรอยด์ หรือโรคหัวใจ
- น้ำหนักตัวเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในช่วงตั้งครรภ์
- รับประทานอาหารที่มีโซเดียมสูง
คุณแม่ตั้งครรภ์สามารถลดความเสี่ยงในการเกิดภาวะครรภ์เป็นพิษได้
- ควบคุมน้ำหนักตัวให้อยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสม
- รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ครบ 5 หมู่
- ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ
- พักผ่อนให้เพียงพอ
- พบแพทย์ตามนัดเป็นประจำ
อายุครรภ์ 30 สัปดาห์ เป็นการก้าวเข้าสู่ช่วงไตรมาสที่ 3 ของการตั้งครรภ์แล้ว ช่วงนี้คุณแม่อาจรู้สึกเหนื่อยล้า อ่อนเพลีย แต่ไม่ต้องกังวลไป อาการเหล่านี้เป็นอาการปกติของการตั้งครรภ์ คุณแม่ควรดูแลสุขภาพของตนเองให้แข็งแรงอยู่เสมอ พักผ่อนให้เพียงพอ คุณแม่จะได้มีสุขภาพที่ดี และเตรียมพร้อมสำหรับการคลอดลูกน้อยที่กำลังจะมาถึงในไม่กี่เดือนข้างหน้านี้
อ้างอิง:
- 30 Weeks Pregnant: Your Baby at Week 30, What to Expect
- Week 30: What does my baby look like? , Better health start for life
- พัฒนาการของลูกในครรภ์, BNH Hospital
- Kidney Problem in the Pregnant, CIM Journal
อ้างอิง ณ วันที่ 10 ธันวาคม 2566